ระเบียบวินัย สำหรับนักเรียน

ตามความมุ่งหมายและหลักการจัดการศึกษาของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 6 การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ฉะนั้น ทางโรงเรียนจึงได้กำหนดระเบียบสถานศึกษา ว่าด้วยแนวทางการปฏิบัติตนของนักเรียน โรงเรียนบ้านน้ำสวยห้วยปลาดุก เพื่อให้บรรลุตามความมุ่งหมายด้วย โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรงเรียน ครูผู้สอน คณะกรรการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน ดังรายละเอียดต่อไปนี้

หมวดที่ 1 วินัยนักเรียนที่พึงปฏิบัติ

1. นักเรียนต้องมีเครื่องแต่งกาย เครื่องเขียน แบบเรียน เครื่องใช้ต่าง ๆ ตามที่โรงเรียนกำหนด

2. นักเรียนแต่งกายให้ถูกต้องตามระเบียบว่าด้วยเครื่องแต่งกายนักเรียนของโรงเรียนตั้งแต่ออกจากบ้านมาโรงเรียนจนกลับบ้าน

3. นักเรียนมาถึงโรงเรียนต้องถือว่าอยู่ในความควบคุมดูแลของครู

4. นักเรียนจะออกนอกบริเวณโรงเรียนต้องได้รับอนุญาตจากครูประจำชั้น ครูประจำรายวิชา ครูเวรประจำวัน/ฝ่ายปกครอง

5. ที่มาโรงเรียนสายต้องมารายงานตัวต่อครู และขอรับบัตรอนุญาตเข้าชั้นเรียนต่อฝ่ายปกครอง และอาจารย์ประจำวิชาทุกครั้ง

6. นักเรียนต้องอยู่ในโอวาทของครู - อาจารย์ ทุกคน ทั้งให้ความเคารพเชื่อฟังคำสั่งสอนไม่แสดงอาการแข็งกระด้าง

7. นักเรียนต้องประพฤติตนให้เหมาะสมกับสภาพของนักเรียน เช่นไม่เที่ยวเตร่ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ไม่เล่นการพนัน ไม่ลักทรัพย์ และทำชู้สาวกับบุคคลภายใน และภายนอกโรงเรียน

8. นักเรียนต้องแสดงกิริยาสุภาพอ่อนโยนต่อบุคคลทั่วไป รักษาความสามัคคีในหมู่คณะ ไม่กระทำการใด ๆ อันเป็นเหตุนำมาซึ่งความเสื่อมเสียชื่อเสียงมาสู่โรงเรียน

9. นักเรียนต้องเข้าร่วมและช่วยเหลือกิจกรรมโรงเรียนให้เจริญก้าวหน้า

10. นักเรียนต้องมีวัฒนธรรมในการรักษาทรัพย์สมบัติของโรงเรียนมิให้เกิดการชำรุด

หมวดที่ 2 การปฏิบัติตนของนักเรียน

1. นักเรียนควรพึงรู้ตนเสมอว่าเป็นนักเรียนต้องปฏิบัติตนให้เป็นระเบียบของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด

2. นักเรียนพึงปฏิบัติตนให้เป็นคนดี มีความขยันหมั่นเพียร ซื่อสัตย์สุจริต และปฏิบัติตนให้เป็นที่รักของบิดา-มารดา-ครู

3. นักเรียนของโรงเรียนบ้านบางเทาทุกคนพึงมีความรักใคร่ สามัคคีกลมเกลียวในระหว่างเพื่อนร่วมชั้นและนับถือรุ่นพี่ รุ่นน้องผู้ใดทำให้เกิดความแตกแยกสามัคคี บ่อนทำลายความสามัคคีและความมั่นคงของหมู่คณะ คือบุคคลที่ไม่พึงปรารถนาของโรงเรียนบ้านบางเทา

4. นักเรียนของโรงเรียนบ้านบางเทาทุกคน ต้องมีบัตรประจำตัวนักเรียนที่ออกโดยฝ่ายปกครองของโรงเรียน และต้องนำติดตัวทุกครั้งที่มาโรงเรียน

หมวดที่ 3 การปฏิบัติก่อนเข้าห้องเรียนของนักเรียน

1. เพลงชาติจบ (08.01 น.) ให้นักเรียนทุกคนเตรียมตัวเข้าแถวหน้าเสาธงโดยพร้อมเพรียงกัน

2. สัญญาณครั้งที่ 1(08.15 น.) เข้าแถวเตรียมตัวรับคำสั่งจากประธานนักเรียน และอาจารย์เวรผู้ประกาศหน้าเสาธง

3. นักเรียนทุกคนต้องร้องเพลงชาติพร้อมกันด้วยความเคารพ สวดมนต์แผ่เมตตา กล่าวคำปฏิญาณ และฟังการอบรม ฟังข่าวสารการนัดหมายด้วยความสงบเรียบร้อย

4. เดินเข้าเรียนแถวสงบเรียบร้อย ไม่นั่งอยู่หน้าห้องหรือแตกแถวไปทำธุระที่อื่นอีกเป็นอันขาด

5. นักเรียนที่มาทีหลังจากธงชาติขึ้นสู่ยอกเสาแล้ว ถือว่ามาสายต้องพบอาจารย์เวรและขอบัตรเข้าชั้นจากอาจารย์เวร หรือฝ่ายปกครอง เพื่อนำไปแสดงต่ออาจารย์ประจำวิชาที่กำลังสอนอยู่

- ถ้าจำเป็นต้องมาสายให้มีหนังสือรับรองจากผู้ปกครองมาแสดง

- นักเรียนมาสายเกิน 3 ครั้งติดต่อกัน โรงเรียนจะเรียกผู้ปกครองมาพบเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง

หมวดที่ 4 การปฏิบัติตนในห้องเรียน

1. นักเรียนต้องอยู่ภายในห้องเรียนด้วยความเรียบร้อย ไม่ส่งเสียงอึกทึกหรือเล่นกัน ไม่ลุกจากที่นั่งก่อนได้รับอนุญาตจากอาจารย์ผู้สอน

2. นักเรียนทุกคนมีหน้าที่ทำความสะอาดห้องเรียนรักษาความสะอาด รักษาทรัพย์สินภายในห้องเรียน ไม่ทุบทำลายและจัดห้องเรียนให้เรียบร้อยน่าอยู่อาศัย

3. นักเรียนไม่นำวิชาอื่นขึ้นมาทำขณะที่ครูกำลังสอนอยู่

4. ไม่นำอาภรณ์ของมีค่า อาวุธหรือสิ่งอื่นใดที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนเข้ามาไว้ภายในห้องเรียน

5. ขณะที่ครูกำลังสอน ถ้าออกนอกห้องเรียนต้องขออนุญาตก่อน

6. การเปลี่ยนห้องเรียน ต้องเดินไปเป็นแถว สงบและเรียบร้อย

7. ไม่นำอาหาร เครื่องดื่ม เข้าไปรับประทานในห้องเรียน

8. เมื่อครูประจำวิชาไม่เข้าสอนเกิน 5 นาที ให้หัวหน้าชั้นหรือตัวตัวไปรายงารนอาจารย์หัวหน้าหมวดวิชานั้น เพื่อจัดครูเข้าสอนแทน

9. นักเรียนต้องถอดรองเท้าวางไว้ ณ ที่เก็บที่จัดไว้ให้ ไม่สวมหมวก หรือปลดกระดุมเสื้อ

10. ต้องไม่นำชอล์คหรือสิ่งของภายในห้อง เช่น แปรงลบกระดาน ไว้กวาด มาข้างปาเล่น หรือขีดเขียนโต๊ะ ฝาผนังห้อง โดยเด็ดขาด

11. เมื่อเกิดการวิวาทกันในห้องเรียน หรือระหว่างห้องเรียน อย่าตัดสินกันเอง ควรรายงานให้อาจารย์ประจำชั้น หรือหัวหน้าอาคารทราบ

หมวดที่ 5 การออกนอกห้องเรียนขณะทำการเรียนการสอน

1. ในระหว่างที่มีชั่วโมงเรียน นักเรียนต้องอยู่ในห้องเรียน จะไปอยู่ตามสนามกีฬา โรงอาหารหรือห้องสมุดไม่ได้ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจาดครู-อาจารย์

2. ถ้าจำเป็นต้องออกจากห้องเรียนต้องขออนุญาตจากอาจารย์ประจำวิชาในชั่วโมงนั้น

3. ในกรณีที่ครูไม่อยู่หรือยังไม่เข้าสอน นักเรียนต้องอยู่ในห้องเรียนด้วยความสงบ ไม่ส่งเสียงหรือกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนห้องข้างเคียง ถ้าจำเป็นต้องออกนอกห้องต้องแจ้งให้หัวหน้าชั้นทราบ

4. การเข้าห้องเรียนขณะที่อาจารย์ทำการสอนอยู่จะต้องขออนุญาตเป็นการเข้าเรียนช้าควรแสดงบัตรอนุญาตเข้าชั้นเรียน

หมวดที่ 6 การใช้ยานพาหนะ

1. นักเรียนจะนำรถจักรยานยนต์มาโรงเรียน ต้องทำใบขับขี้ให้เรียบร้อย และต้องได้รับอนุญาตจากฝ่ายปกครองเสียก่อน

2. นักเรียนต้องนำรถจอดที่โรงเก็บรถอย่างเป็นระเบียบ

3. ถ้านักเรียนจะกลับบ้านหรือออกนอกบริเวณโรงเรียนก่อนโรงเรียนเลิก ต้องแสดงบัตรอนุญาตกับยามเฝ้าประตูโรงเรียนก่อนนำรถออกจาก โรงเก็บรถ

(ถ้านักเรียนคนใดนำรถออกจากโรงเรียนมิได้รับอนุญาต จะถือว่าส่อไปในทางลักขโมย)

- ให้นักเรียนชะลอความเร็วของรถ โค้งคำนับและกล่าวสวัสดี

- ถ้านักเรียนพบครูยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนตอนเช้าเลิกเรียน ให้นักเรียนยืนคำนับ นักเรียนหญิงถ้ามือว่างพอที่จะไหว้ก็ให้ไหว้ ถ้าขี่จักรยานให้ชะลอความเร็วแล้วโค้งคำนับ

- ถ้าผู้ปกครองขับรถใด ๆ มาส่ง ให้นักเรียนลงที่หน้าประตูทุกคนและทำความเคารพตามวรรคแร

หมวดที่ 7 การปฏิบัติตามกฎจราจร

1. นักเรียนต้องข้ามถนนตรงทางม้าลาย หรือตรงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรบริการอยู่

2. นักเรียนต้องขึ้นรถโดยสารที่หน้าโรงเรียน

3. เมื่อขึ้นรถแล้วต้องหาที่นั่งภายในรถให้เรียบร้อย อย่ายืนขวางประตูขึ้นลง ห้อยโหนตามบันไดและไม่ขึ้นนั่งบนหลังคารพ

4. นักเรียนต้องนั่งภายในรถให้เรียบร้อยอย่าเดินไปมา

5. เวลาจะขึ้นหรือลงรถ ให้รถจอดสนิทก่อนอย่าเกาะหรือกระโดดลง

6. เมื่อลงรถอย่าข้ามถนนด้านหลังรถ เพราะรถที่สาวนมามองไม่เห็น และอาจจะชนได้

7. ห้ามนักเรียนโบกรถอื่นที่ไม่ใช่รถประจำทางกลับบ้าน

หมวดที่ 8 การขออนุญาตออกนอกบริเวณโรงเรียนหรือกลับบ้าน

1. ผู้ปกครองต้องมาขอลาด้วยตนเอง หรือเป็นลายลักษณ์อักษร การลาทางโทรศัพท์จะไม่อนุญาตเพราะตรวจสอบไม่ได้

2. นักเรียนแจ้งป่วยกะทันหัน

3. เขียนหนังสืออนุญาตที่ฝ่ายปกครองยื่นต่อครูประจำชั้น ครูประจำวิชา ครูเวร

4. รับบัตรจากฝ่ายปกครองและนำบัตรมาส่งให้ฝ่ายปกครองเมื่อกลับจากธุรกิจแล้ว

5. ในกรณีที่โรงเรียนมีความจำเป็นส่งนักเรียนกลับบ้าน รับแบบส่งนักเรียนกลับบ้านจากฝ่ายปกครองรับทราบแล้วนำมาคืนฝ่ายปกครอง

หมวดที่ 9 การรับประทานอาหารกลางวัน

1. ไม่รับประทานอาหารก่อนเวลาพักหรือพักเวลาที่ทางโรงเรียนกำหนด

2. ไม่นำอาหารไปรับประทานในห้องเรียนหรือในห้องประชุม

3. ถ้าจำเป็นต้องรับประทานอาหารก่อนเวลาพักเที่ยง ให้ขออนุญาตจากอาจารย์เวรก่อน

4. ภาชนะที่ใส่อาหารทุกชนิด อย่าทิ้งไว้นอกโรงอาหาร

5. ต้องรักษามารยาทในการรับประทานอาหารไม่นั่งยอง ๆ บนเก้าอี้หรือส่งเสียงดัง หรือรับประทานอาหารอย่างมูมมาม

หมวดที่ 10 การแสดงความเคารพ

การแสดงความเคารพเป็นการแสดงออกของผู้ที่ได้รับการศึกษา อบรม โรงเรียนจึงกำหนดระเบียบการเคารพขึ้นเป็นหลักปฏิบัติ เพื่อปลูกฝังนิสัยให้นักเรียนเป็นคนสุภาพอ่อนน้อม รู้จักเคารพครูอาจารย์ และผู้ใหญ่ ดังนี้

1. การแสดงความเคารพภายในโรงเรียน

1.1 นักเรียนต้องถือว่าอาจารย์ภายในโรงเรียนเป็นครู-อาจารย์ ของนักเรียนทุกคนต้องให้ความเคารพ นับถือ เชื่อฟัง

1.2 เมื่อนักเรียนนั่งอยู่กับที่ ถ้ามีครูเดินผ่านมาระยะใกล้พอควร ให้นักเรียนชายยืนตรงหรือยกมือไหว้ นักเรียนหญิงยืนตรงแล้วไหว้

1.3 เมื่อนักเรียนเดินสวนกับครู - อาจารย์ ให้นักเรียนหยุดเลี่ยงหันหน้าทำความเคารพเช่นเดียวกับข้อ 1.2

1.4 เมื่อนักเรียนเดินตามหลังอาจารย์ไม่ควรแซงขึ้นหน้า ถ้าจำเป็นจริง ๆ นักเรียนต้องกล่าวคำว่า "ขอโทษ" ก่อน เช่น พูดคำว่า "ขอโทษครับ (ค่ะ)" และถ้าอาจารย ์เดินตามหลังนักเรียนมาใกล้ ๆ ควรหยุดให้อาจารย์เดินผ่านไปก่อน

1.5 ลูกเสือ - เนตรนารี ยุวกาชาดและนักศึกษาวิชาทหารที่อยู่ในเครื่องแบบ ให้ทำความเคารพตามระเบียบของเครื่องแบบนั้น ๆ

ทุกกรณี

1.6 เมื่อครูเข้าห้องเรียน หรือออกจากห้องเรียน ให้หัวหน้ากล่าวว่า "นักเรียนเคารพ" โดยนักเรียนทั้งหมดยืนตรงหรือนักเรียนชายยืนตรง นั่งเรียนหญิงนั่งกราบ และกล่าวพร้อมกันว่า "สวัสดีครับ (ค่ะ)" หรือ "ขอบคุณครับ (ค่ะ)"

1.7 นักเรียนพูดกับอาจารย์ต้องยืนตรงในลักษณะสำรวม เมื่อพูดเสร็จแล้วแสดงความเคารพก่อนจากไป

1.8 เมื่อนักเรียนเข้าพบครูขณะที่ครูนั่งอยู่ที่โต๊ะ ให้ยืนห่างโต๊ะประมาณ 1 ก้าว นักเรียนชายโค้งคำนับ นักเรียนหญิงไหว้แล้วนั่งคุกเข่าลง ในกรณีที่เข้าพบมาก ๆ ให้เข้าแถวอย่ารุมล้อมโต๊ะครู

1.9 เมื่อมีผู้ใหญ่มาเยี่ยมที่ห้องเรียน ให้นักเรียนฟังครู - อาจารย์ที่สอนอยู่สั่งการถ้านักเรียนพบในบริเวณโรงเรียน ให้ทำความเคารพเช่นเดียวกับครู-อาจารย์

2. แสดงความเคารพภายนอกโรงเรียน

เมื่อพบครู - อาจารย์ภายนอกโรงเรียน ให้นักเรียนทุกคนทำความเคารพโดยการ "ไหว้" และกล่าวคำว่า "สวัสดี" ถ้านักเรียนสวนกับครูที่ขี่จักรยาน หรือรถจักรยานยนต์

หมวดที่ 11 การลาป่าย – ลากิจ

1. ผู้ปกครองต้องมาลาต่ออาจารย์ประจำชั้นด้ายตัวเอง

2. เขียนใบลาโดยมีคำรับรองของผู้ปกครอง ถ้าลากิจธุระต้องส่งล่วงหน้า 1 วัน คำรับรองต้องมีลายเซ็นของผู้ปกครองคนเดียวกับใบมอบตัว หรือผู้ปกครองคนที่ 2 (หากปลอมลายเซ็นต์ผู้ปกครองถือเป็นโทษสถานหนัก)

3. ถ้านักเรียนหยุดเรียนติดต่อกันเกิน 3 วัน โดยไม่แจ้งให้ทางโรงเรียนทราบ โรงเรียนจะติดต่อกับผู้ปกครองทางไปรษณียบัตร ให้ผู้ปกครองแจ้งเหตุผลมายังโรงเรียน ถ้าส่งทางไปรษณียบัตรแล้วไม่แจ้งมาทางโรงเรียน จะติดต่อกับผู้ปกครอง ดังนี้

ก. เชิญผู้ปกครองมาพบที่โรงเรียน

ข. หากผู้ปกครองไม่มาพบภายใน 7 วัน ฝ่ายปกครองจะเสนอผู้อำนวยการเพื่อสั่งพักการเรียนหรือให้คัดชื่อออก

4. เมื่อนักเรียนส่งใบลาต่ออาจารย์ประจำชั้นให้อาจารย์ประจำชั้นแนบใบลาไว้ในใบเซ็นต์ชื่อของอาจารย์ประจำวิชา ที่หัวหน้าหมวดทุกใบ

หมวดที่ 12 การรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของห้องเรียน

1. นักเรียนต้องรักษาความสะอาดของห้องเรียน โดยแบ่งหน้าที่เป็นเวรรักษาความสะอาด

2. นักเรียนต้องช่วยกันรักษาความสะอาดของบริเวณโรงเรียน ไม่ทิ้งเศษกระดาษ หรือขีดเขียนตามโต๊ะอาหาร

3. นักเรียนต้องไม่เคลื่อนย้ายโต๊ะ หรือม้านั่งออกนอกห้องเรียนก่อนได้รับอนุญาต

4. นักเรียนไม่ขีดเขียนฝาผนัง ม้านั่ง ดึงหรือแกะทำลายทรัพย์สินของโรงเรียน เช่น ปลั๊กไฟ สวิตซ์ ไฟฟ้า สายไฟฟ้า กระจกหน้าต่าง ประตู และอื่น

ระเบียบว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน

ตามที่โรงเรียนบ้านบางเทา ได้กำหนดให้มีระเบียบของสถานศึกษา ว่าด้วยแนวทางการปฏิบัติตนของนักเรียนโรงเรียนบ้านบางเทา และระเบียบว่าด้วยการลงโทษนักเรียนนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเอื้ออำนวยประโยชน์ต่อการใช้ระเบียบดังกล่าว ทางโรงเรียนจึงได้กำหนดระเบียบว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน ดังนี้

1. เครื่องแบบนักเรียนชาย

1.1. ชั้นประถมศึกษา

1.1.1 เสื้อเชิ้ตคอตั้ง ผ้าขาวเนื้อเรียบไม่บางจนเกินไป ผ่าอกตลอด สาบกว้าง 3-4 ซ.ม. กระดุมขาว เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซ.ม. แขนสั้นเพียงข้อศอกพองามมีกระเป๋าติดอกข้างซ้ายขนาดกว้าง 8-12 ซ.ม. ลึก 10-15 ซ.ม. ด้านหลังไม่มีจีบ เมื่อใส่เข้าในกางเกงให้เห็นเข็มขัดรัดรอบตัว

1.1.2 กางเกง ใช้กางเกงผ้าสีกากีทรงแบบไทยขาสั้นเหนือเข่าเมื่อวัดจากกลางลูกสะบ้าประมาณ 10 ซ.ม. ส่วนกว้างขอบขาเมื่อยืนตรงจะกว้างจากขาประมาณ

8-10 ซ.ม. ปลายขาพับไว้ข้างในกว้าง 5 ซ.ม. ผ่าตรงส่วนหน้าใช้ซิปมีกระเป๋าเล็กข้างหน้า หรือกระเป๋าหลัง มีหูสำหรับสอดเข็มขัด 5-7 หู

1.1.3 เข็มขัด ใช้เข็มขัดลูกเสือสีน้ำตาลไม่มีลวดลาย กว้าง 3-4 ซ.ม. เจาะรูเดียวมีปลอกหนังสีเดียวกับเข็มขัด

1.1.4 รองเท้า ใช้รองเท้าผ้าใบหรือหนัง ชนิดหุ้มส้นสีน้ำตาล ไม่มีลวดลาย มีสายเชือกผูกสีเดียวกับรองเท้า ห้ามใช้รองเท้าหัวตัด หัวแหลมส้นสูงหรือมีขอบสีขาวโดยเด็ดขาด

1.1.5 ถุงเท้า ใช้ถุงเท้าสีน้ำตาล ไม่มีลวดลายหรือสีอื่นปน ยาวครึ่งหน้าแข้ง เวลาสวมต้องดึงขึ้นมาให้สุด ความยาวของถุงเท้า ห้ามพับ

1.1.6 ทรงผม นักเรียนชั้นประถมศึกษา ไว้ผมส่วนหน้ายาวไม่เกิน 2 ซ.ม. ส่วนบนยาวไม่เกิน 1/2 ซ.ม.

1.2. ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-ม.3)

1.2.1 เสื้อเชิ้ตคอตั้ง ผ้าขาวเนื้อเรียบไม่บางจนเกินไป ผ่าอกตลอด สาบกว้าง 3-4 ซ.ม. กระดุมขาว เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซ.ม. แขนสั้นเพียงข้อศอกพองามกระเป๋าติดอกข้างซ้ายขนาดกว้าง 8-12 ซ.ม. ลึก 10-15 ซ.ม. ด้านหลังไม่มีจีบ เมื่อใส่เข้าในกางเกงให้เห็นเข็มขัดรัดรอบตัว

1.2.2 กางเกง ใช้กางเกงผ้าสีกรมท่าขาสั้นเหนือเข่าเมื่อวัดจากกลางลูกสะบ้าประมาณ 10 ซ.ม. ส่วนกว้างขอบขาเมื่อยืนตรงจะกว้างจากขาประมาณ 8-10 ซ.ม. ปลายขาพับไว้ข้างในกว้าง 5 ซ.ม. ผ่าตรงส่วนหน้าใช้ซิปมีกระเป๋าเล็กข้างหน้า หรือกระเป๋าหลัง มีหูสำหรับสอดเข็มขัด 5-7 หู

1.2.3 เข็มขัด ใช้เข็มขัดสีดำ หัวสี่เหลี่ยมสีเงิน ชนิดกลัดหัวรูเดียว มีปลอกหนังสีเดียวกับเข็มขัด

1.2.4 รองเท้าและถุงเท้า ใช้แบบเดียวกับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และเวลาสวมต้องดึงขึ้นมาให้ยาวสุดความยาว

1.2.5 ทรงผม ส่วนหน้ายาวไม่เกิน 4 ซ.ม. ส่วนบนยาวไม่เกิน 3 ซ.ม. ด้านข้างตัดสั้นตรงขึ้นไปตามแบบผม ทรงอเมริกัน ไม่ใส่น้ำมันปรับแต่งทุกชนิดและไม่ไว้หนวดเครา

2. เครื่องแบบนักเรียนหญิง

2.1 ชั้นประถมศึกษา

2.1.1 เสื้อสีขาวเนื้อเกลี้ยงเรียบ แขนสั้น คอปกทหาร เสื้อไม่รัดรูป ผ่าอกพอสมควร ห้ามใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าเยื่อไม้ ผ่าลึกพอสมควรอกติดกระดุมกิ๊ป 1 เม็ด

ปกใหญ่ขนาด 10 ซ.ม. ใช้ผ้าสองชิ้น แขนเสื้อยาวเพียงข้อศอกปลายแขนจีบ 6 เกล็ด ผ้าหุ้มปลายแขนกว้าง 3 ซ.ม. ติดกระดุมกิ๊ปพอดีกับลำแขนตัวเสื้อยาวเกิน

บั้นเอวลงไปประมาณ 5-7 ซ.ม. หรือวัดจากข้อมือขึ้นมาเมื่อยืนตรงระยะตั้งแต่ 10-15 ซ.ม. ชายขอบเสื้อด้านล่างพับ 3 ซ.ม. มีกระเป๋า 5-9 ซ.ม. ลึก 10-15 ซ.ม.

ติดที่ชายเสื้อข้างขวา 1 ใบ

2.1.2 โบว์ผูกคอใช้ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 -6 ใช้ผ้าสีน้ำเงินซึ่งเป็นสีเดียวกับกระโปรง ส่วนปลายกว้าง 6-8 ซ.ม. ผูกเสมอกับกระดุมกิ๊ปเม็ดแรก

2.1.3 กระโปรง ใช้ผ้าสีน้ำเงินเนื้อผ้าไม่หนามาก พื้นเรียบไม่มีลวดลาย ขอบกระโปรงกว้าง 3 ซ.ม. ตีเกล็ดด้านซ้ายขวาข้างละ 3 เม็ด ด้านหลังตีเกล็ดเช่นเดียว

กับด้านหน้า เกล็ดเย็บตะเข็บตายตัวยาว 2 ซ.ม. (จีบออกนอกตัวทั้งซ้ายขวา) ความยาวของกระโปรงวัดจากเอว (แนวสะดือ) ลงมาขณะยืนตรงให้ยาวใต้เข่า

ประมาณ10 ซ.ม. ขอบพับเข้าข้างในแล้วให้มีส่วนกว้าง 2 นิ้ว

2.1.4 ถุงเท้า ใช้ถุงเท้าสีขาวเนื้อเรียบหนาพอสมควร ไม่มีลวดลาย และขอบไม่มีสีอื่น เวลาสวมพับขอบประมาณ 3 ซ.ม. และสูงกว่าขอบรองเท้าขึ้นมา

ไม่น้อยกว่า 5 ซ.ม. (ห้ามม้วนกลม)

2.1.5 รองเท้า ใช้รองเท้านักเรียนหนังสีดำ มีสายรัด หุ้มส้น หัวมน ไม่มีลวดลายส้นสูงไม่เกิน 3 ซ.ม. และห้ามพับสายรัดไปข้างหลังส้นเท้า

2.1.6 ทรงผม นักเรียนชั้นประถมศึกษา ต้องตัดสั้น ให้มองเห็นติ่งหูเล็กน้อย จะติดกิ๊ปสีดำได้ ห้ามมีลวดลาย ผมไม่ซอย เซ็ท ย้อมสีแดง หรือดัดซอย

ให้หยิกงอ

2.2 ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-ม.3)

2.2.1 เสื้อสีขาวเนื้อเกลี้ยงเรียบ แขนสั้น คอปกทหาร เสื้อไม่รัดรูป ผ่าอกพอสมควร ห้ามใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าเยื่อไม้ ผ่าลึกพอสมควร อกติดกระดุมกิ๊ป 1 เม็ดปกใหญ่ขนาด 10 ซ.ม. ใช้ผ้าสองชิ้น แขนเสื้อยาวเพียงข้อศอกปลายแขนจีบ 6 เกล็ด ผ้าหุ้มปลายแขนกว้าง 3 ซ.ม. ติดกระดุมกิ๊ปพอดีกับลำแขนตัวเสื้อยาว เกินบั้นเอวลงไปประมาณ 5-7 ซ.ม. หรือวัดจากข้อมือขึ้นมาเมื่อยืนตรงระยะตั้งแต่ 10-15 ซ.ม. ชายขอบเสื้อด้านล่าง พับ 3 ซ.ม. มีกระเป๋า 5-9 ซ.ม.

ลึก 10-15 ซ.ม. ติดที่ชายเสื้อข้างขวา 1 ใบ

2.2.2 โบว์ผูกคอใช้ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 -6 ใช้ผ้าสีน้ำเงินซึ่งเป็นสีเดียวกับกระโปรง ส่วนปลายกว้าง 6-8 ซ.ม. ผูกเสมอกับกระดุมกิ๊ปเม็ดแรก

2.2.3 กระโปรง ใช้ผ้าสีน้ำเงินเนื้อผ้าไม่หนามาก พื้นเรียบไม่มีลวดลาย ขอบกระโปรงกว้าง 3 ซ.ม. ตีเกล็ดด้านซ้ายขวาข้างละ 3 เม็ด ด้านหลังตีเกล็ดเช่นเดียวกับด้านหน้า เกล็ดเย็บตะเข็บตายตัวยาว 2 ซ.ม. (จีบออกนอกตัวทั้งซ้ายขวา) ความยาวของกระโปรงวัดจากเอว (แนวสะดือ) ลงมาขณะยืนตรงให้ยาวใต้เข่าประมาณ 10 ซ.ม. ขอบพับเข้าข้างในแล้วให้มีส่วนกว้าง 2 นิ้ว

2.2.4 ถุงเท้า ใช้ถุงเท้าสีขาวเนื้อเรียบหนาพอสมควร ไม่มีลวดลาย และขอบไม่มีสีอื่น เวลาสวมพับขอบประมาณ 3 ซ.ม. และสูงกว่าขอบรองเท้าขึ้นมาไม่น้อยกว่า 5 ซ.ม. (ห้ามม้วนกลม)

2.2.5 รองเท้า ใช้รองเท้านักเรียนหนังสีดำ มีสายรัด หุ้มส้น หัวมน ไม่มีลวดลายส้นสูงไม่เกิน 3 ซ.ม. และห้ามพับสายรัดไปข้างหลังส้นเท้า

2.2.6 ทรงผม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ต้องตัดสั้น ให้มองเห็นติ่งหูเล็กน้อย จะติดกิ๊ปสีดำได้ ห้ามมีลวดลาย ผมไม่ซอย เซ็ท ย้อมสีแดง หรือดัดซอยให้หยิกงอ

ระเบียบว่าด้วยการลงโทษนักเรียน

ตามที่โรงเรียนได้กำหนดให้มีระเบียบของสถานศึกษาว่าด้วยแนวทางการปฏิบัติตนของนักเรียนโรงเรียนบางเทาไปแล้วนั้น เพื่อเป็นการเฝ้าระวังป้องกัน มิให้นักเรียนละเมิดการปฏิบัติตนตามระเบียบของสถานศึกษา อีกทั้งเป็นการลงโทษนักเรียนที่ประพฤติปฏิบัติตนไม่เป็นไปตามระเบียบของสถานศึกษาที่กำหนด จึงได้กำหนดระเบียบว่าด้วยการลงโทษนักเรียน โดยสอดคล้องกับระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา 2548 ประกอบด้วย 4 สถาน ดังนี้

1. ความผิดสถานเบา ได้แก่ความผิดเล็ก ๆ น้อย ที่ได้แสดงถึงอุปนิสัยความประพฤติ ดังนี้

1.1 แต่งกายผิดระเบียบ

1.2 กริยาวาจาหยาบคาย

1.3 หนีเรียน ไม่เข้าห้องเรียน

1.4 ไม่รักษาความสะอาดของห้องเรียน และโรงเรียน

1.5 มาโรงเรียนสายโดยไม่มีเหตุผล

1.6 ปีนรั้วเข้า ออกโรงเรียน

1.7 ส่งเสียงอึกทึกบนห้องเรียนและนอกห้องเรียน

1.8 เล่นกีฬาบนห้องเรียน

1.9 ไม่เข้าแถวเคารพธงชาติ

1.10 นำกระเป๋าผิดระเบียบมาโรงเรียนหรือไม่นำกระเป๋ามาโรงเรียน

ฯลฯ

บทลงโทษ พบอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่ออบรม บำเพ็ญประโยชน์ 1 ครั้ง

2. ความผิดขั้นปานกลาง ได้แก่ ความผิดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือส่วนรวม และทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียงของโรงเรียนหมู่คณะตามกรณี ดังนี้

2.1 ออกนอกบริเวณโรงเรียนโดยไม่ได้รับอนุญาต

2.2 เที่ยวกลางคืนเป็นนิจ

2.3 ประพฤติตนในทางชู้สาว

2.4 ทะเลาะวิวาท

2.5 เล่นการพนัน

2.6 สูบบุหรี่ หรือมีบุหรี่ในครอบครอง

2.7 ไม่ปฏิบัติตามกฎจราจรหรือผิดระเบียบการใช้รถจักรยานยนต์

2.8 ไม่ให้ความร่วมมือกับส่วนรวม

2.9 โกหกหรือให้ความเป็นเท็จต่อครู อาจารย์

2.10 ขาดเรียนเกิน 3 วัน โดยไม่ทราบสาเหตุ

2.11 ความผิดอื่น ๆ ที่เทียบเคียงกับความผิดข้างต้น

ฯลฯ

บทลงโทษ พบอาจารย์หัวหน้าระดับชั้นเรียน เพื่ออบรม บำเพ็ญประโยชน์ 1 ครั้ง และตัดคะแนน ครั้งละ 10 คะแนน

3. ความผิดสถานหนัก ได้แก่ ความผิดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น แก่ส่วนรวม และทำให้ชื่อเสียงของโรงเรียนทั้งหมู่คณะ

3.1 นำหนังสือลกมกมาโรงเรียน

3.2 เป็นนักเลงการพนัน

3.3 ทำร้ายผู้อื่น

3.4 เป็นนักเลงอันธพาล

3.5 เสพสิ่งเสพติด ดื่มเครื่องดอง ของมึนเมา

3.6 ทำลายทรัพย์สินของส่วนรวมโดยเจตนา

3.7 แสดงกริยาลบหลู่ดูหมิ่นครู อาจารย์

3.8 หรือความผิดอื่น ๆ ที่เทียบเคียงกับความผิดข้างต้น

บทลงโทษ พบครูฝ่ายปกครอง เพื่ออบรมแก้ไขปรับปรุงพฤติกรรม บำเพ็ญประโยชน์ 1 ครั้งและตัดคะแนน 15 คะแนน

ฯลฯ

4. ความผิดขั้นร้ายแรง ได้แก่ความผิดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น แก่ส่วนรวม และทำให้เสียชื่อเสียงของโรงเรียนร้ายแรง ซึ่งอาจมีความผิดตามกฎหมาย ดังนี้

4.1 ลักทรัพย์

4.2 มียาเสพติดไว้ในครอบครองหรือเพื่อจำหน่าย

4.3 พกพาอาวุธมาโรงเรียน

4.4 มีพฤติกรรมชู้สาวขั้นเสียหาย

4.5 ทะเลาะวิวาทสถานหนักในโรงเรียนหรือนอกโรงเรียน

4.6 ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงหรือกระทำการใด ๆ ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของโรงเรียนอย่างมาก

4.7 ความผิดอื่น ๆ ที่เทียบเคียงกับความผิดข้างต้น

ฯลฯ